ป้องกัน-ข้อควรปฏิบติ เมื่อรถไฟไหม้ | เดลินิวส์
„วิธีสังเกตสัญญาณเตือนต่าง ๆ ก่อนเกิดไฟไหม้รถ รวมถึงข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดไฟไหม้รถ ทั้งกรณีไฟไหม้เล็กน้อยและไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้รถและการเอาตัวรอดในกรณีที่เกิดไฟไหม้ขณะขับรถอยู่ วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2557 เวลา 0:00 น. ในช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา นสพ.เดลินิวส์ ได้ลงข่าวเรื่องไฟไหม้รถอยู่ 2 กรณีที่อยากจะหยิบยกมาเขียนถึง เพราะเป็นช่วงพอดีกับที่ทางกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้จัดทำบทความเผยแพร่เกี่ยวกับวิธีป้องกันไฟไหม้รถ วิธีสังเกตสัญญาณเตือนต่าง ๆ ก่อนเกิดไฟไหม้รถ รวมถึงข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดไฟไหม้รถ ทั้งกรณีไฟไหม้เล็กน้อยและไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้รถและการเอาตัวรอดในกรณีที่เกิดไฟไหม้ขณะขับรถอยู่ สำหรับรถคันแรกที่เกิดไฟไหม้เป็นรถของศิลปิน “นกลออ” ค่ายเอเอ็มจี ดนตรีมีชีวิต คาดว่าน่าจะเกิดจากสภาพรถที่ผ่านอายุการใช้งานมาถึง 9 ปี ประกอบกับเป็นรถใช้ระบบก๊าซเป็นเชื้อเพลิงร่วมด้วย ส่วนรถอีกคันที่เกิดไฟไหม้เป็นรถของอดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำราชอาณาจักรภูฏาน สาเหตุที่เกิดไฟไหม้คาดว่าน่าจะมาจากระบบก๊าซแอลพีจีที่ติดตั้งเป็นเชื้อเพลิงเกิดการรั่วไหลเช่นกัน ทั้ง 2 กรณีนี้สอดคล้องกับที่ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ไฟไหม้รถส่วนใหญ่มักเกิดกับรถที่ติดตั้งระบบก๊าซแอลพีจี หรือซีเอ็นจี ที่ติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน ผ่านการปรับแต่งสภาพหรือใช้อะไหล่ที่ไม่มีคุณภาพและขาดการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี หรือเป็นรถเก่าที่มีอายุการใช้งานนาน ส่วนรถใหม่ก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้เช่นกันหากไม่ดูแลรักษาสภาพเครื่อง ยนต์อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ทาง ปภ. ขอแนะวิธีป้องกันไฟไหม้รถและข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดไฟไหม้รถดังนี้ วิธีป้องกันไฟไหม้รถก่อนขับขี่ ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน เติมน้ำหม้อน้ำในระดับที่กำหนด ท่อน้ำมันเชื้อเพลิงไม่มีรอยรั่ว ไม่มีเศษวัสดุติดในหม้อน้ำ และท่อยางสายพานมีความตึงในค่าที่กำหนด โดยเฉพาะกระโปรงหน้ารถ หากมีเขม่าดำเกาะแสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์ รวมถึงควรตรวจดูใต้ท้องรถหากมีร่องรอยน้ำมันหยด ถ้าเจอให้รีบแก้ไขโดยด่วน ที่สำคัญควรจัดเตรียมขวดบรรจุน้ำหรือถังดับเพลิงเคมีไว้ด้านข้างคนขับ หรือในตำแหน่งที่หยิบใช้งานสะดวก จะได้นำมาใช้งานได้ทันทีเมื่อเกิดไฟไหม้รถขณะขับขี่ ผู้ขับขี่ควรหมั่นสังเกตสัญญาณเตือนบริเวณที่มักเกิดขึ้นก่อนไฟไหม้รถดังนี้ มาตรวัดระดับความร้อนของเครื่องยนต์ซึ่งอยู่บริเวณหน้าปัดรถ หากหม้อน้ำแห้ง พัดลมระบายความร้อนขัดข้องจะทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดจนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้รถบริเวณกระโปรงหน้า เพราะเป็นที่ตั้งของเครื่องยนต์ และสายไฟที่อาจทำให้เกิดประกายไฟบริเวณกระโปรงหลังรถ โดยเฉพาะรถที่ติดตั้งระบบก๊าซ หากรถกระตุกเมื่อสตาร์ต หรือในขณะขับขี่ควรนำรถไปตรวจสอบสภาพ เพราะเครื่องยนต์อาจทำงานขัดข้องหรือถังน้ำมันรั่ว ทำให้อากาศเข้าไปในตัวถังจนทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ก่อให้เกิดไฟไหม้รถได้ ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดไฟไหม้รถกรณีไฟไหม้เล็กน้อย หากเป็นรถที่ติดตั้งระบบก๊าซให้รีบปิดสวิตช์ตัดการทำงานของระบบก๊าซและดับเครื่องยนต์ พร้อมนำถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิง หากมีเปลวไฟออกมาจากฝากระโปรงรถ ให้ปลดสลักฝากระโปรงและฉีดพ่นสารเคมีผ่านทางช่องฝากระโปรงที่แง้มไว้ห้ามเปิดฝากระโปรงทันทีเพราะจะทำให้ไฟลุกลามมากขึ้น เมื่อไฟเริ่มสงบ จึงค่อย ๆ เปิดฝากระโปรงขึ้น โดยใช้ผ้ารองหรือสวมถุงมือ เนื่องจากฝากระโปรงมีความร้อนสูง หากเปิดได้แล้วควรฉีดพ่นให้ทั่วห้องเครื่องจนมั่นใจว่าไฟดับสนิท จากนั้นให้รีบถอดขั้วแบตเตอรี่ออกเพื่อป้องกันไม่ให้เปลวไฟปะทุขึ้นอีก กรณีที่ไม่มีถังดับเพลิง ให้ใช้ผ้าเปียกน้ำหรือทรายมาโปะบริเวณที่เกิดไฟไหม้ หรือใช้ขวดน้ำเจาะปากขวดเป็นรูเล็ก ๆ ฉีดบริเวณที่เกิดไฟไหม้ กรณีไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ให้ตั้งสติ ดับเครื่องยนต์แล้วรีบลงจากรถโดยออกห่างจากรถให้มาก และเร็วที่สุดเพื่อป้องกันรถระเบิด จากนั้นให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาควบคุมเพลิง ทั้งนี้การเรียนรู้วิธีป้องกันไฟไหม้รถและข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดไฟไหม้รถ จะช่วยลดความเสี่ยง และลดผลกระทบจากการเกิดไฟไหม้รถได้. สมฤกษ์ รื่นสัมฤทธิ์“
เครดิต บทความจาก หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/article/266454
หน้าที่เข้าชม | 92,428 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 62,778 ครั้ง |
เปิดร้าน | 10 พ.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 3 ก.ย. 2568 |